MASTER เข้าเทรด mai วันแรก 62.25 บาท พุ่ง 35.33%

หุ้น บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ หรือ MASTER  ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ราคาเปิดการซื้อขายที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 16.25 บาท หรือ 35.33% จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 46 บาท 

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER เผยว่า บริษัทเปิดให้บริการมากว่า 9 ปี เริ่มจากคลินิกเสริมความงาม จนพัฒนาและยกระดับเป็นโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ซึ่งมีมาตรฐานการให้บริการระดับเดียวกับมาตรฐานโรงพยาบาล ให้บริการด้านการศัลยกรรมครบวงจรโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านการศัลยกรรม สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเพื่อขยายพื้นที่ศูนย์บริการและสำนักงานฯ รองรับบริการที่เพิ่มขึ้นปรับปรุงอาคารและห้องผ่าตัดบนพื้นที่โรงพยาบาลเดิม จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

MASTER มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวมาศฉมาดล ถือหุ้น 67.97% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ

.MASTER ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจรภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” ตั้งอยู่ที่ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ให้บริการศัลยกรรมได้หลากหลาย อาทิ ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมยกคิ้วและกรอบหน้า ศัลยกรรมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมันปรับรูปร่าง ศัลยกรรมตา ศัลยกรรมปรับโครงสร้างรูปหน้า เป็นต้น รวมถึงการปลูกผม ดูแลเส้นผม และให้บริการดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับมาตรฐานระดับสากล

โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีจำนวนเตียงให้บริการ 7 เตียง บนพื้นที่ให้บริการ 4,267 ตารางเมตร มีแพทย์ 41 ท่าน บุคลากร 533 คน และมีรายได้หลักมาจากการให้บริการศัลยกรรมร้อยละ 80 นอกจากนี้ ในปี 2565 บริษัทได้ทำข้อตกลงกับสถาบัน Korean College of Cosmetic Surgery และสถาบัน Face Design จากประเทศเกาหลี เพื่อให้คำปรึกษาระหว่างแพทย์กับแพทย์ ยกระดับการให้บริการศัลยกรรมความงามของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

MASTER มีทุนชำระแล้ว 240 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 190 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมจะนำหุ้นออกขาย 15 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 48.75 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 9.75 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทไม่เกิน 6.5 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 17 - 19 มกราคม 2566 ในราคาหุ้นละ 46 บาท คิดเป็นมูลค่าขาย IPO  2,990 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 11,040 ล้านบาท

ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 36.85 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ซึ่งเท่ากับ 299.61 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.25 บาท โดยมีบริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญร่วม


#MASTER #SET #ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย #ข่าวหุ้น #ข่าวประจำวัน